รูปแบบชาร์ต
Gold Market Outlook【20 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【20 พฤศจิกายน 2567】💫
ราคาทองพุ่งต่อเนื่องหลังความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครนกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย 🌍
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง 📈 แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ตลาดจับตาสัญญาณจากเฟดเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทองพุ่งขึ้น 2% 🚀 นับเป็นการปรับตัวขึ้นรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม และฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนของสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า รายงานล่าสุดเกี่ยวกับการที่รัสเซียเปลี่ยนแปลงหลักการด้านนิวเคลียร์ หลังยูเครนโจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลเป็นครั้งแรก ส่งผลให้เกิดกระแสเงินไหลเข้าสู่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 🛡️
ความน่าสนใจของทองคำได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำ 📊
สัปดาห์นี้มีกำหนดการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านจะกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักเทรดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 62% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม 💭
นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า "เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนทองคำยังไม่ลดลง ระดับราคาที่ต่ำลงจึงดึงดูดความสนใจในการซื้อ" 📝
ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ การซื้อทองคำของธนาคารกลาง และการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์หลังจากแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว ยังช่วยให้ทองคำน่าดึงดูดสำหรับผู้ซื้อในสกุลเงินอื่นๆ 💱
ด้านเทคนิค ราคาทองคำวันนี้ยังคงมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ $2,670 และแนวต้านสำคัญที่ $2,680 เป็นจุดพิจารณาทำกำไรสำหรับสถานะ Buy 📊 สำหรับผู้ที่ยังไม่มีสถานะ หากราคาขึ้นไปยืนเหนือ $2,640 อาจพิจารณาเข้าซื้อตามแนวรับที่สูงขึ้น
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน (09:10)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🎯
🔼 แนวต้าน 3: $2,680
🔼 แนวต้าน 2: $2,670
🔼 แนวต้าน 1: $2,650
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,631
🔽 แนวรับ 2: $2,617
🔽 แนวรับ 3: $2,594
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡
จุดสังเกตุ ต้นทุนฝรั่งรอบนี้-ในกรอบสีแดง เมื่อวานฝรั่งซื้อที่ 1.6พันล้าน
- ปกติการซื้อแบบนี้มักจะดันไป 30 - 50 จุด นั่นคือจุดสูงสุดแถว 965 นั่นเอง
- ขณะเดียวกันถ้าต่ำกว่ากรอบแดงคือ 936.5 ก์ไปรับที่ 929 ถ้าหลุดอีก หวังที่ 890 ได้เลย
- ส่วนตัวยิ่งสูงยิ่งหนาว อ่านการบ้าน wk นี้ไว้นะครับผมว่าน่าจะออกมารูปนั้น ผมก็ action ตามนั้น
- แล้วถ้าเลือกขึ้น เมื่อถึง high เดิมคง ออกก่อน แล้วค่อยว่ากัน
- ส่วนตัวคิดว่าไปไม่น่าเกิน 970
S50Z24 กับ Bearish Butterfly Pattern Bearish Butterfly Pattern เป็นหนึ่งในรูปแบบฮาร์โมนิกราคา (Harmonic Patterns) ที่ช่วยนักเทรดในการคาดการณ์การกลับตัวของราคาในตลาด โดยทั่วไปใช้กับตลาดที่มีแนวโน้มขาลง (Bearish) และมักเกิดขึ้นใกล้จุดสูงสุดก่อนที่ราคาจะปรับตัวลง
### โครงสร้างของ Bearish Butterfly Pattern
รูปแบบนี้ประกอบด้วย 4 จุดหลัก (X, A, B, C, D) และใช้ Fibonacci Ratios เพื่อยืนยันตำแหน่งดังนี้:
1. **XA**: เป็นขาขึ้นแรกเริ่ม (Initial move) ของรูปแบบ
2. **AB**: ย่อตัวลงมาประมาณ **78.6%** ของ XA
3. **BC**: ดีดตัวขึ้นไปประมาณ **38.2%-88.6%** ของ AB
4. **CD**: เป็นขาขึ้นสุดท้ายที่ยาวกว่า XA โดยมักอยู่ที่ **127.2%-161.8%** ของ XA
จุดที่สำคัญที่สุดคือ **D** ซึ่งเป็นจุดที่ราคามักกลับตัวลง (Reversal Zone)
### สัญญาณที่ใช้
1. **PRZ (Potential Reversal Zone)**: บริเวณจุด D ที่เกิดจากการคำนวณ Fibonacci จะเป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มกลับตัว
2. **Confirmation**: เมื่อราคามาถึงจุด D ต้องใช้สัญญาณเพิ่มเติม เช่น แท่งเทียนกลับตัว หรือเครื่องมืออื่นๆ เพื่อยืนยันการกลับตัว
### การใช้งาน
1. **เข้าออเดอร์**: เปิดคำสั่งขาย (Short) ใกล้จุด D
2. **จุดทำกำไร (Take Profit)**: มักวางไว้ที่ระดับ Fibonacci Retracement ของ CD เช่น 38.2% หรือ 61.8%
3. **จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)**: ตั้งไว้เหนือจุด D เพื่อป้องกันความเสี่ยง
### ตัวอย่างการมองภาพ
- คิดง่ายๆ ว่า Bearish Butterfly เหมือนผีเสื้อที่กำลังกางปีกขึ้นไป แต่พอถึงจุดสูงสุด (D) จะ "ร่อนลง" (ราคากลับตัวลง)
เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ตลาดที่มีโครงสร้างชัดเจนและเน้นการเทรดตาม Fibonacci Ratios!
เทรนด์ทองคำ 18/11 - การฟื้นตัวของ S-T เริ่มต้นขึ้นตลาดทองคำในสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปตามการคาดการณ์ของเรา ในขณะที่ช่วงการแข็งค่ายังคงดำเนินต่อไป ราคาทะลุแนวต้าน 2650(1) ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยเริ่มเคลื่อนตัวลงสู่เป้าหมายของเราที่ 2600 ต่อมาราคาตกลงสู่ระดับต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่ 2536 ตามข้อมูลเงินเฟ้อในวันพุธ หลังจากนั้นมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปิดสัปดาห์ใกล้กับปี 2562 ในวันศุกร์ ซึ่งลดลง 102 ดอลลาร์
หลังการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่า ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 250 ดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในการขายลดลงหลังจากการฟื้นตัวจากปี 2538 เป็นที่น่าสังเกตว่าประธานเฟด พาวเวลล์ กล่าวอย่างชัดเจนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ไม่มีการเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามสภาวะตลาดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการจำกัดศักยภาพของทองคำที่สูงขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลตลาดที่มีนัยสำคัญในปฏิทินสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาทองคำจึงคาดว่าจะทรงตัวในทิศทางด้านข้าง
แผนภูมิ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > โมเมนตัมขาลงมีการชะลอตัวลงตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว หากราคาทะลุออกจากเส้นแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน (3) เราก็สามารถกำหนดเป้าหมายขาขึ้นเริ่มต้นที่ 2620 (4) เนื่องจากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ จึงถือว่าช่วงปี 2555-2620 (4) เป็นเขตปฏิบัติการชั่วคราว
กราฟรายวัน (ด้านบน) >ทองคำทะลุแนวต้าน 50% ในสัปดาห์ที่แล้ว (5) และดีดตัวขึ้นจากเส้น MA 100 วัน (6) เราคาดแนวต้านระยะสั้นได้ประมาณ 2,600-2,605(7) ในกรณีที่มีการละเมิดสูงกว่า 2600 เป้าหมายถัดไปคาดว่าจะอยู่ใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันที่ประมาณ 2630
P.To
SET GDP ทั้งปีทำไว้ ที่2.4 % นำมาจับมุมมองกราฟSET:SET Key Takeaways:
📍GDP ไทย ไตรมาส 3/24 ขยายตัวได้ 3.0% YoY (1.2% QoQ) ขยายตัวมากกว่าตลาดคาดที่ 2.4% YoY (Bloomberg Consensus) แต่เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ BLS House view ที่ 2.9% YoY
📍ปัจจัยหนุนหลักในไตรมาสนี้ ได้แก่ การบริโภคภาครัฐ (+6.3% YoY) การลงทุนภาครัฐ (+25.9% YoY) และการส่งออกสินค้า (+8.3% YoY) ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนเติบโตชะลอลงที่ 3.4% YoY จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9% YoY
📍อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังน่าเป็นห่วง โดยหดตัว 2.5% YoY เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 สะท้อนถึงภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวได้บางสาขา
เนื้อหา:
GDP ไทยไตรมาส 3/24 ขยายตัวเร่งขึ้น โดยมี 3 ปัจจัยหนุนหลัก ได้แก่
1. การบริโภคภาครัฐขยายตัว 6.3% YoY ขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัวได้สูงถึง 25.9% YoY ซึ่งเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณก่อนการสิ้นสุดปีงบประมาณ 67 บวกกับผลของฐานต่ำ
2. การส่งออกสินค้าไทยขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด โดยโตถึง 8.3% YoY จากอานิสงส์ด้าน Front-loaded demand ของสหรัฐฯ และยุโรป ก่อนมาตรการขึ้นภาษีมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนกันยายน ประกอบกับ Demand ของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อาทิ HDDs ที่ยังคงเติบโตสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่หนุนการส่งออกของไทยตลอดทั้งไตรมาส 3/24 และ
3. การบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัวได้ดี 3.4% YoY แม้จะเป็นการขยายตัวในทิศทางที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9% YoY โดยการใช้จ่ายในหมวดโรงแรม ร้านอาหาร เติบโตชะลอลงจากผลของ Low Season ด้านการท่องเที่ยว ส่วนสินค้าคงทนยังคงหดตัวต่อเนื่องถึง 9.9% YoY ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง อันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่คาดว่าจะกดดันการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมของไทยไปอย่างต่อเนื่องไปถึงปีหน้า (หากไม่มีมาตรการมากระตุ้นการบริโภคเพิ่มเติม)
อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว 2.5% YoY ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า (-6.8% YoY) สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคธุรกิจแบบไม่ทั่วถึง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อโดยภาพรวมยังไม่สามารถกลับมาแบบยั่งยืนได้ ทำให้ sentiment การลงทุนของภาคเอกชนโดยรวมยังไม่ฟื้นกลับมา
ทั้งนี้ เราคาดว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/24 น่าจะขยายตัวเร่งขึ้นได้ราว 3.6% YoY (Base case) จากผลของฐานต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ที่น่าจะการแจกเฟสสองแก่กลุ่มคนอายุ 50 – 60 ปี ก่อนสิ้นปี ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ ร่วมกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (เที่ยวคนละครึ่ง) ที่น่าจะออกมาเพิ่มเติมก่อนสิ้นปี รวมถึงการท่องเที่ยวในช่วง High Season โดยเราคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติไตรมาส 4/24 น่าจะอยู่ที่ราว 9.5 ล้านคน และน่าจะทำให้ยอดทั้งปีมาแตะที่ 35.6 ล้านคน ตามที่เราคาดไว้ (คิดเป็นสัดส่วน 89.2% ของ Pre-covid) อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/67 ยังคงมีความเสี่ยงด้านการส่งออกที่เรามองว่าน่าจะชะลอตัวลงแรงกว่าที่คาด จาก Demand ของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ และจีนที่ชะลอลง ทำให้เรายังคงยืนมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปี 67 โตที่ 2.6% YoY
จากรายงานนี้บ้านเรา GDP ทั้งปีทำไว้ ที่2.4 % พอมาจับกับภาพตลาดมอง 1 เดือนครึ่งที่เหลือบัานเราจะเล่นออกข้าง ในกรอบ 1436 ถึง1500 ยกเว้นมีปัจจัยใหม่เข้ามาครับ
Gold Market Outlook【19 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【19 พฤศจิกายน 2567】💫
ทองพุ่งทะยาน $44.50 ท่ามกลางความตึงเครียดยูเครน-รัสเซีย หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย 🚀
ราคาทองคำปิดตลาดด้วยแรงซื้อหนุนแข็งแกร่งในวันจันทร์ (18 พ.ย.) 📈 โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย หลังสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนส่อเค้ารุนแรงยิ่งขึ้น ⚔️
นักวิเคราะห์ในตลาดระบุว่า กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างต่อเนื่องในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ภายหลังรัฐบาลไบเดนอนุมัติการใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของยูเครนในการโจมตีเชิงลึกเข้าสู่ดินแดนรัสเซีย 🎯
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของรัฐบาลไบเดนอย่างรุนแรง มองว่าเป็นการบั่นทอนบทบาทของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเป็นการเร่งระดับความรุนแรงของความขัดแย้ง 🔥
ขณะที่รัสเซียออกโรงเตือนว่า การกระทำดังกล่าวสะท้อนถึงการเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐฯ ในความขัดแย้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทุของสงครามโลกครั้งที่ 3 ⚠️
ปัจจัยหนุนอีกประการมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น 💱 โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.38% มาอยู่ที่ระดับ 106.276
ในแง่เทคนิค ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ $2,620 📊 อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการย่อตัวหลังทดสอบแนวต้านครั้งแรก ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหากราคายังยืนเหนือ $2,583 ได้ 💫 หากผ่านแนวต้านสำคัญนี้ไปได้ คาดว่าจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นอย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ $2,650 ⭐
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน (08:55)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🎯
🔼 แนวต้าน 3: $2,650
🔼 แนวต้าน 2: $2,635
🔼 แนวต้าน 1: $2,620*
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,603
🔽 แนวรับ 2: $2,583*
🔽 แนวรับ 3: $2,561
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡
ทองคำ XAUUSD ต้องทำฐาน SUPPORT 61.8% ที่ 2588 เพื่อฟื้นตัวทองคำ XAUUSD ต้องทำฐาน SUPPORT 61.8% ที่ 2588 เพื่อฟื้นตัว
ภาพนี้อธิบายถึงหลักการยืนยันการเข้าเทรด (Entry Confirmation) สำหรับการเทรดในตลาดการเงิน โดยมีองค์ประกอบและตัวชี้วัดที่ใช้เพื่อยืนยันการเข้าเทรดอย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น ดังนี้:
### หลักการยืนยันการเข้าเทรด
1. **Trendline Break & Retest**: การทะลุและทดสอบแนวโน้มที่ลากไว้ (การที่ราคาเคลื่อนไหวผ่านเส้นแนวโน้มและกลับมาทดสอบเส้นนี้อีกครั้ง)
2. **0.618% Fibo Retracement**: การปรับตัวของราคากลับมาอยู่ในระดับ 0.618% ตาม Fibonacci retracement ซึ่งมักเป็นจุดกลับตัวที่สำคัญ
3. **Bullish Market Structure**: โครงสร้างตลาดที่แสดงถึงทิศทางขาขึ้น (มีการทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น)
4. **Bullish Engulfing**: รูปแบบแท่งเทียนที่มีแท่งสีเขียวขนาดใหญ่กลืนแท่งสีแดงก่อนหน้า บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น
### ตัวอย่างรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา
- **เส้นแนวโน้ม (Trendline)**: สังเกตการทะลุเส้นแนวโน้มที่ลากผ่านจุดสูง (LH) หลายจุดและการทดสอบกลับมาที่เส้นแนวโน้มนั้น
- **ระดับ Fibonacci**: ราคาเคลื่อนที่ผ่านจุด 0%, 0.272%, และ 0.618% เพื่อแสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคา
### รูปแบบแท่งเทียนที่ช่วยยืนยันการเข้าเทรด
- **Tweezer Bottoms**: รูปแบบแท่งเทียนคู่ที่แสดงการกลับตัวจากแนวโน้มขาลง
- **Morning Star**: รูปแบบสามแท่งเทียนที่แสดงการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงไปสู่ขาขึ้น
- **Three Soldiers**: รูปแบบสามแท่งเทียนสีเขียวต่อเนื่อง แสดงถึงการเคลื่อนไหวขึ้นที่แข็งแกร่ง
### ข้อความเพิ่มเติม
หากพบว่ามีรูปแบบแท่งเทียนใด ๆ เหล่านี้ประกอบกับแนวคิดทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง จะช่วยยืนยันความมั่นใจในการเข้าเทรด
**สรุป**: ภาพนี้แสดงกลยุทธ์การเข้าเทรดที่มีการใช้ทั้งโครงสร้างตลาดและรูปแบบแท่งเทียนเพื่อยืนยันว่าการเข้าเทรดมีความเป็นไปได้สูงในความสำเร็จ
BTC พยายามหาทางขึ้นอยู่ใช่มั้ย?ตอนนี้ BTC ยังวิ่งในกรอบสามเหลี่ยมอยู่ ถ้าหลุดไปทางใดทางนึงไม่ว่าจะข้างบนหรือข้างล่างรับรองได้ร้องกรี๊ดดดแน่นอน
มุมมองผม
ถ้ายังไม่ผ่าน 91,680 ก็ยังไว้ใจไม่ได้
ควรวิ่งเหนือ 90,300
ตอนที่เขียน content นี้ราคาแตะ 0.618 อยู่ ก่อนปิดแท่ง week ดูเหมือนรอเลือกทางในระยะสั้นอยู่
Gold Market Outlook【18 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【18 พฤศจิกายน 2567】💫
📰 ราคาทองร่วงแรงที่สุดในรอบ 3 ปี! หลังตลาดคาดเฟดชะลอลดดอกเบี้ย
ราคาทองคำวันศุกร์นี้ส่อแววร่วงหนักที่สุดในรอบกว่า 3 ปี 📉 หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กระทบความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ 💰
ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าสูงสุดในรอบเดือน ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น 🌍
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ เติบโตเกินคาด ✨
นักเศรษฐศาสตร์มองว่านโยบายภาษีของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ ส่งผลให้เฟดต้องชะลอการลดดอกเบี้ย 📊
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงส่งผลลบต่อทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน 💡
ล่าสุดประธานเฟดได้ออกมาระบุว่า ยังไม่จำเป็นต้องรีบลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดการณ์โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 62% จากเดิม 83% 📈
🔍 วิเคราะห์ทางเทคนิค:
ช่วงต้นสัปดาห์ให้ระวังราคาปรับตัวลงเล็กน้อย โดยมีแนวรับที่ 2554 และ 2539 ตามลำดับ หากราคาไม่หลุดจุดต่ำสุดใหม่ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นในภายหลัง
💡 กลยุทธ์การลงทุน:
- ช่วงนี้แนะนำดักขายก่อน แต่ควรลดปริมาณการลงทุนเนื่องจากราคาลงมาต่ำมากแล้ว
- หากราคาลงไปทดสอบแนวรับแล้วไม่หลุด อาจพิจารณาดักซื้อสวนเทรนระยะสั้น
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bearish 🐻
🔼 แนวต้าน 3: $2,585
🔼 แนวต้าน 2: $2,575
🔼 แนวต้าน 1: $2,565
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,554
🔽 แนวรับ 2: $2,547
🔽 แนวรับ 3: $2,539
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡
ราคา BTC วิ่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมจะหลุดได้หรือไม่?แนวโน้มและการวิเคราะห์:
แนวโน้มราคา: ราคาบิตคอยน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้น (uptrend) ตามกราฟรายวัน (HTF) ที่มีจุดทำ Higher High ใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา【20】
จุดแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ:
แนวต้านแรก: ใกล้ระดับ 92,000 - 93,000 ดอลลาร์ หากราคาทะลุผ่านได้ อาจทดสอบแนวต้านถัดไปที่ประมาณ 95,000 ดอลลาร์
แนวรับหลัก: อยู่ที่ประมาณ 89,000 - 90,000 ดอลลาร์ โดยมีโอกาสที่ราคาจะปรับฐานในโซนนี้เพื่อสร้างแรงซื้อก่อนดีดตัวกลับ
ตัวชี้วัดทางเทคนิค:
สัญญาณในกรอบ LTF (กรอบระยะสั้น) แนะนำให้รอจังหวะย่อในเขต Discount Zone เพื่อเข้าสู่สถานะซื้อ โดยต้องรอสัญญาณยืนยันอีกครั้งก่อนดำเนินการ
ข่าวสารและปัจจัยเสริม:
ความนิยมของบิตคอยน์ยังคงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดเอเชีย ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายยังคงสูง【19】
ราคาบิตคอยน์ (BTC) ปัจจุบันขยับตัวอยู่ที่ 91,294 USD และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นตามแนวโน้มระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 93,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากทะลุแนวต้านสำคัญไปได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาแนวรับที่ 89,000 USD ซึ่งอาจเป็นจุดพักตัวก่อนดีดกลับ การตัดสินใจลงทุนในช่วงนี้ควรพิจารณาจากข้อมูลพื้นฐานและตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่างรอบคอบ
การบ้าน WK 18-22 / 11 / 67* WK ที่แล้วบอกว่า น่าจะปิดเป็นรูป บาร์ บวก
* แต่ปิดจริง ก็ ไปทางลง (เกือบจะเป็นรูปเครื่องหมาย บวก)
* ถ้าสันนิษฐานของผมถูกตลาดควรเลือกที่จะลงในอาทิตย์หน้า สันนิษฐานจาก การซื้อหุ้นของกองทุน เป็นหลัก ซื้อแล้วทไมไม่ขึ้น เพราะเขารอต้นทุนถูก ใกล้สิ้นปีแล้วกองทุนคงไม่ทำอะไรผลีผลาม
* ตลาดน่าจะ sideway down มากกว่า แต่นั่นแหละไม่มีใครรู้ ถ้ารู้ขนาดผู้จัดการกองทุนคงไม่เจ๊ง
* wk หน้าจะเป็นอีก wk นึงที่ คนเล่น sidway เป็นจะได้ตังค์ คนเล่นไม่เป็นให้อยู่เฉยๆ จะดีกว่า
สุรุป
ตลาดน่าจะอยู่ในกอรบสีเหลี่ยม ในภาวะที่ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ตลาด เมื่อราคาใกล้กรอบล่าง ฝั่ง S ควรปิดสัญญา เมื่อราคสใกล้กรอบบน ฝั่ง L ควรปิดสัญญา สำหรับคนเล่นไซด์เวย์เป็น
BTC Swing Buy ขา 2BTC Swing Buy ขา 2
TF4H
BTC เบรค Pattern กรอบสะสมประมาณ 2 ร้อยกว่าวัน
ขาแรกผ่านไปแล้วบริเวณ 74000-76000
จังหวะนี้เป็นขา 2 พักตัว TF4H Volume ลดลง
และมีแท่งกลับตัว เป็นจุดเข้า Swing Buy
โดยวาง SL ไว้ที่หลุด Low ที่ราคา 84800
และ TP1 หัว High ก่อนหน้า 93200
TP2 Fibonacci 161.8 ที่ราคา 97296
ตามลำดับ