รูปแบบชาร์ต
สัญญาณการซื้อขายข้อมูล NFP ประจำสัปดาห์นี้สวัสดีทุกคน. สัปดาห์นี้เรามีข้อมูล NFP มาวิเคราะห์อัตราต่อรองทองคำในสัปดาห์นี้กัน ระดับการสนับสนุนทองคำในปัจจุบันอยู่ที่ 2840-2830-2817
1: ในเส้น K รายวัน ตัวบ่งชี้สุ่มอยู่ในสถานะ Golden Cross ซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นหลัก เส้นคู่ MACD ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นหลัก ดังนั้นเส้น K รายวันยังคงถูกครอบงำโดยขาขึ้น และแนวโน้มขาขึ้นเป็นที่โดดเด่น ในแง่ของรูปแบบ วันนี้เป็นวันที่ 6 ของการทะลุขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังและเริ่มปรับตัวทีละน้อยในวันศุกร์ หากมีรูปแบบบวก 3 รูปแบบติดต่อกัน รูปแบบบวก 6 รูปแบบติดต่อกัน หรือรูปแบบบวก 9 รูปแบบติดต่อกัน ให้ระวังการลดลงและการแก้ไขในรูปแบบ
2: ในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ตัวบ่งชี้สุ่มจะอยู่ในสถานะของการยึดเกาะและเฉื่อยชั่วคราว และตัวบ่งชี้ MACD อยู่ในแนวเส้นคู่ขึ้น ทั้งสองนี้ค่อนข้างขัดแย้งกัน แสดงให้เห็นว่าจะมีการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระหว่างวัน ตำแหน่งแนวรับการแปลงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใน 4 ชั่วโมงปัจจุบันอยู่ที่ตำแหน่งแนวรับสามตำแหน่งคือ 2840-2830-2817
เมื่อวานเราก็เริ่มขายทองคำในระดับสูงและตอนนี้ดูเหมือนว่าแนวคิดการซื้อขายนี้จะประสบความสำเร็จ
09/02/25วิเคราะห์กราฟ XAUUSD โดยใช้ TD Sequential และ Fibonacci วิเคราะห์กราฟ XAUUSD โดยใช้ TD Sequential และ Fibonacci เพื่อวางแผนการเทรดทั้งฝั่ง Short และ Long พร้อมคำนวณ Profit/Loss ในแต่ละกรณี (Best Case, Most Likely, Worst Case) และหา % Win Rate ของแต่ละฝั่ง
________________________________________
1. วิเคราะห์ TD Sequential
• กราฟปัจจุบันแสดง TD Sequential 9 และ 13 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจถึงจุดอิ่มตัว และมีโอกาสเกิดการกลับตัวหรือพักฐาน
• TD Sequential 13 เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น แสดงว่าควรพิจารณาความเป็นไปได้ของการปรับฐาน
________________________________________
2. วิเคราะห์ Fibonacci Retracement & Extension
• แนวต้านสำคัญ
o 127.2% Fibonacci Extension (2,859.07) → แนวที่ราคากำลังทดสอบ
o 161.8% Fibonacci Extension (2,946.72) → เป้าหมายขาขึ้นถัดไป
• แนวรับสำคัญ
o 100% Fibonacci (2,790.17) → แนวรับแรก
o 78.6% Fibonacci (2,735.96) → แนวรับสำคัญ
o 61.8% Fibonacci (2,693.41) → แนวรับที่มีโอกาสเด้งสูง
o Demand Zone (2,550 - 2,600) → โซนที่มีแรงซื้อสูง
________________________________________
3. วางแผนการเทรด
โซนที่ 1: Short Setup (โซนขาย)
📌 Entry: 2,860 - 2,900 (บริเวณ 127.2% - 161.8% Fibonacci)
🎯 Targets:
• Target 1: 2,790 (100% Fibonacci)
• Target 2: 2,735 (78.6% Fibonacci)
📉 Stop Loss: เหนือ 2,950
✅ Risk/Reward Ratio: 1:2 - 1:3
📈 โอกาสชนะ: 65% (TD Sequential 13 + แนวต้าน Fibonacci)
________________________________________
โซนที่ 2: Long Setup (โซนซื้อ)
📌 Entry: 2,735 - 2,790 (78.6% - 100% Fibonacci)
🎯 Targets:
• Target 1: 2,860 (127.2% Fibonacci)
• Target 2: 2,900 - 2,950 (161.8% Fibonacci)
📉 Stop Loss: ต่ำกว่า 2,690
✅ Risk/Reward Ratio: 1:2 - 1:3
📈 โอกาสชนะ: 70% (แนวรับ Fibonacci + Demand Zone)
________________________________________
4. คำนวณ Profit/Loss ในแต่ละกรณี
สถานการณ์ ราคาเข้า (Entry) เป้าหมาย (Target) Stop Loss กำไร (Profit) ขาดทุน (Loss) R:R Ratio
Best Case (Short) 2,860 2,735 2,950 125 90 1.39
Most Likely (Short) 2,860 2,790 2,950 70 90 0.78
Worst Case (Short) 2,860 2,950 2,950 0 90 0
Best Case (Long) 2,735 2,950 2,690 215 45 4.78
Most Likely (Long) 2,735 2,860 2,690 125 45 2.78
Worst Case (Long) 2,735 2,690 2,690 0 45 0
________________________________________
5. วิเคราะห์ % ชนะของแต่ละฝั่ง
ฝั่งเทรด % ชนะ Risk/Reward Ratio สรุป
Short 65% 1.39 - 0.78 เทรดได้ แต่ไม่ค่อยคุ้มค่า
Long 70% 4.78 - 2.78 มีโอกาสชนะสูงกว่าและกำไรมากกว่า
________________________________________
6. สรุปและคำแนะนำ
• หากราคาทองคำอยู่ในโซน 2,860 - 2,900 → สามารถเปิด Short ได้ แต่ต้องตั้ง Stop Loss เคร่งครัด
• หากราคาทองคำลงไปถึง 2,735 - 2,790 → ควรมองหา Long เพราะโอกาสชนะสูงกว่า
• Long มี Risk/Reward Ratio ที่ดีกว่า และมีแนวโน้มกำไรสูงกว่า
📌 สรุป: เน้นรอ Long ที่แนว 2,735 - 2,790 มีโอกาสชนะสูงกว่า!
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ขาย" 8/2/2025อธิบาย : ระบบ Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ คือระบบที่ใช้หลักการดูเส้น MACD ว่า เส้นนี้จะตัดกับเส้นศูนย์เมื่อไหร่ โดย ถ้าตัดขึ้นก็จะเป็นสัญญาณซื้อ ถ้าตัดลงก็จะเป็นสัญญาณขาย ถือเป็นระบบ Trend Following ที่ใช้ได้ดีกับตลาดที่มีเทรนจ๋าๆ เช่น BTC
แต่ระบบนี้ก็จะมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดเช่นกัน คือ ในช่วงตลาด sideway ออกข้างเราอาจจะเจอ false sig ทำให้ต้องคืนกำไร คืนทุน กันบ่อยๆ ได้ หรือบางทีถ้าตลาดมีการทุบแรงๆ ก็อาจจะทำให้เจอการคืนกำไรหมดเช่นกัน เพราะระบบจะต้องรอ confirm ของเส้น MACD ก่อน ถึงจะยอมขาย ตอนขึ้น บางทีทำให้มันถือได้นาน ถือได้ทน รันเทรนได้นาน แต่ถ้าลงแรงก็จบกัน 555
ความเห็นของรอบนี้ : สุดท้ายมันก็เหี่ยวจนแดงจนได้ รอบนี้ไม่มีความเห็นใดๆ นอกจากบอกได้คำเดียว่า กราฟ อย่าง กาก เฮ้อ หลังจากนี้ก็รอดูกันไปว่า แดงแล้วจะลงไปเฝ้ารากมะม่วง หรือเด้งสู้สับขาหลอกกันอีกรอบ ห้า ...ห้า... ห้า...
BTC ActionZone = เขียว ( 17/1/2025 )
------------------
Entry : 100,000+-
SL : 90,000 ( -10% )
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTC ActionZone = แดง ( 8/2/2025 )
------------------
Entry : 100,000+-
SL : 96,500 ( -3.5% )
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )
Actual Loss = -0.35% ของพอร์ต
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2025 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไร/ขาดทุนจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะคลาดเคลื่อนจากข้อมูลด้านล่างพอสมควรครับ
(1Jan-???) EMA120D = ??%
(7Jan-10Jan) ATR = -1%
(7Jan-10Jan) ActionZone = -1%
(18Jan-3Feb) ATR = -1%
(22Jan-3Feb) BreakHigh = -1%
(17Jan-8Feb) ActionZone = -0.35%
Sum กำไรสะสมของปี 2025 = -4.35% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง ( Max 4% กำไรหน่วย USD )
ตลาดผันผวนแบบนี้ option แล้วถือเฉยๆ สามารถช่วยได้ ขา Long ปวดใจ ซึ่งผมก็ขา long แต่ยังดีที่ ใช้ option ทำให้จำกัดความสียหายไปเยอะ
ถ้าใครทำ naked long คงปวดใจ ( naked long หมายถึงเปิดหน้า long เฉยๆไม่มีแผนอื่น พูดง่ายๆ พนันสูงต่ำ)
ไม่มีใครรู้ว่า ตลาดรายวันจะเป็นยังไง แต่ระยะยาวไปไม่ไกล อาจจะเจอแถว 700 ต้นๆก็เป็นไปได้
เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ ขา long อยู่เฉยๆ จะดีกว่าหรือใช้ option ช่วย หรือไปเล่น index ที่อื่นใน forex เช่น index อมริกา เยอรมัน
Gold Market Outlook [6 กุมภาพันธ์ 2025]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองพุ่งแตะ $2,882 ท่ามกลางความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
🔍 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
1. ความตึงเครียดทางการค้า
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าจีน และจีนตอบโต้ด้วยมาตรการภาษี ขณะที่การชะลอการเก็บภาษี 25% กับเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 1 เดือน ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาดโภคภัณฑ์
2. แนวโน้มนโยบายการเงิน
ตลาดจับตาการประชุม BOE ในวันนี้ และข้อมูล Non-Farm Payrolls ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยตลาดยังคงคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2025
3. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) เมื่อวานนี้ออกมาที่ 183,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 150,000 ตำแหน่ง สะท้อนถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งกว่าคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรอดูตัวเลข NFP ในวันพรุ่งนี้เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของ Fed
4. การเคลื่อนไหวของค่าเงินและตลาดหุ้น
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 1.5% นับตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่ S&P 500 ปรับตัวลดลง 1% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 15 bps มาอยู่ที่ 3.85% เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ
📊 การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับ Scalping (M15)
จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคนิคในกรอบเวลา 15 นาที พบว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงการสร้างฐาน โดยมีการแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง $2,863.76 - $2,870.97
สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้น:
ค่า RSI ปัจจุบันที่ 55.36 แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ลงมาทดสอบแนวรับ
MACD เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวเป็นบวกที่ 0.060 และ Histogram เป็นบวกที่ 0.198 บ่งชี้ถึงโมเมนตัมขาขึ้นในระยะสั้น
ราคามีการฟอร์มตัวเป็นรูปแบบ Higher Low บนกราฟ 15 นาที สะท้อนถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้ามา
กลยุทธ์การเทรด Scalping:
สำหรับนักเทรด Scalping แนะนำให้:
เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับ $2,865.75 โดยตั้ง Stop Loss ไว้ที่ $2,863.50
ทยอยทำกำไรที่แนวต้านแรก $2,870.00 และแนวต้านถัดไปที่ $2,871.50
ระวังการเทรดในช่วงประกาศข่าวสำคัญ โดยเฉพาะการประชุม BOE ในวันนี้
📈 การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับ Day Trade (H1)
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในกรอบ 1 ชั่วโมงแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง โดยมีการสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ $2,882.31 ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่เริ่มมีสัญญาณการพักฐานในระยะสั้น
การวิเคราะห์แนวโน้มหลัก:
ราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีการสร้างจุดสูงใหม่และจุดต่ำใหม่ที่สูงขึ้น (Higher High, Higher Low) อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนี RSI ที่ 57.51 และค่าเฉลี่ย RSI 24 ชั่วโมงที่ 70.41 บ่งชี้ว่าราคาอาจเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ในระยะสั้น
สัญญาณทางเทคนิค H1:
MACD ลดลงจาก 7.88 มาอยู่ที่ 6.44 แสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่เริ่มชะลอตัว
Histogram ติดลบแต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จาก -2.02 เป็น -1.64 บ่งชี้ถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนกำลังลง
ราคายังคงเคลื่อนตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลัก แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงอยู่
กลยุทธ์การเทรด Day Trade:
สำหรับการเทรดรายวัน แนะนำให้:
รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับ $2,863.76 - $2,865.00
ตั้ง Stop Loss ที่ $2,859.97 (ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนล่าสุด)
ตั้งเป้าทำกำไรที่ $2,882.31 (จุดสูงสุดของวัน) และ $2,890.00 (แนวต้านจิตวิทยา)
ระมัดระวังการเทรดในช่วงประกาศผล BOE และ NFP ที่อาจสร้างความผันผวนสูง
ระดับราคาสำคัญ Day Trade:
แนวรับที่ 1: $2,863.76 (จุดต่ำของแท่งล่าสุด)
แนวรับที่ 2: $2,859.97 (จุดต่ำของช่วง 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
แนวต้านที่ 1: $2,870.97 (จุดสูงของแท่งล่าสุด)
แนวต้านที่ 2: $2,882.31 (จุดสูงสุดของวัน)
วิเคราะห์โดย : Beam
ค่อนข้างมั่นใจ ภาพใหญ่อีกหลายๆเดือน จะเป็น swingมี surprise ตลาดลง เมื่อหลายวันก่อนแล้วตีกลับปิด gap ขึ้นมา
ลักษณะแบบนี้ จะเจอบ่อย บีบให้คนที่ไม่เก่งมากจะโดตลาดหลอก
โดยเฉพาะ นโยบายห่ารากกกกกก ขึ้นๆลงๆ ของ Trump ถ้าทุกคนสังเกต
นโยบายจะขู่ให้กลัว แต่พอ action จริงจะน้อย ทำให้ตลาด อารมณ์เหมือน bipolar
แล้วตลาดจะ sideway อีกยาวนานจนกว่า วิธีแก้คือ ซื้อโซนล่าง ขายโซนบน
ดูกราฟ week ภาพใหญ่รวมๆจะเห็นชัด
การซื้อขายรายวันจะยากขึ้น วางเงินให้ดี
แน่นอนว่าราคา ตอนนี้ spot 846 จุดได้เสียจุดละ 200 แสดงว่าราคารวมของ set50 = 846 x 200 =169,200 บาท
คุณวางเงิน 169,200 บาทต่อสัญญา ถ้าเล่น 5 สัญญา ก็นำ 169,200 คูน 5 ไป แล้วไม่ต้องสนใจตลาด
แน่นอนว่า น้อยคนที่จะวางเงินเต็ม มืออาชีพวางแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ต่อ สัญญา มือใหม่ควรวาง 100,000 ต่อสัญญา วางต่ำกว่าที่ผมบอกจะโดนราคาสะบัดแล้วต้องเติมเงินตลอด ถ้าใช้ option ก็จะช่วยเรื่องนี้
ระยะสั้น ตลาดจะดีกลับถึง 900 หรือไม่ตอบไม่ได้ แต่ส่วนตัว สิ้นไตรมาสแรกนี้แล้วจะถือ short มากกว่า
โชคดีมีชัยทุกท่าน
05/02/68 วิเคราะห์แนวโน้มการเทรด SET50 Futures ด้วย Pivot Points05/02/2568 📊 วิเคราะห์แนวโน้มการเทรด SET50 Futures ด้วย Pivot Points (Multiple Time Frames)
จาก ราคาปิดล่าสุด 844.80 และแนวรับ-แนวต้านจาก Camarilla Pivot Points พร้อมกับแนวโน้มจากกราฟเทคนิคอล (H1) เราสามารถแบ่งโซนสำหรับ Long และ Short ได้ดังนี้:
________________________________________
1️⃣ โซนการเข้าเทรด (Entry Zones)
🔴 Short Zone (Sell Entry)
• Entry: 848.3 - 858.9
• Stop Loss (SL): 5-10 จุดเหนือ Entry
o SL 5 จุด = 853.3
o SL 10 จุด = 858.3
• Target 1 (TP1): 840.3
• Target 2 (TP2): 835.2
🟢 Long Zone (Buy Entry)
• Entry: 837.7 - 827.4
• Stop Loss (SL): 5-10 จุดต่ำกว่า Entry
o SL 5 จุด = 832.7
o SL 10 จุด = 827.7
• Target 1 (TP1): 848.3
• Target 2 (TP2): 856.9
________________________________________
2️⃣ คำนวณกำไร/ขาดทุน (Profit/Loss)
โดยใช้ขนาด 1 สัญญา (Contract)
📌 SET50 Futures = 200 บาท/จุด
🔴 Short Trade
Scenario Entry Target Stop Loss จุดต่าง (Pts) กำไร/ขาดทุน (บาท)
Best Case (SL 10 จุด) 858.9 835.2 868.9 23.7 4,740 บาท
Most Likely (SL 5 จุด) 848.3 840.3 853.3 8.0 1,600 บาท
Worst Case (SL 5 จุด) 848.3 - 853.3 -5.0 -1,000 บาท
🟢 Long Trade
Scenario Entry Target Stop Loss จุดต่าง (Pts) กำไร/ขาดทุน (บาท)
Best Case (SL 10 จุด) 827.4 856.9 817.4 29.5 5,900 บาท
Most Likely (SL 5 จุด) 837.7 848.3 832.7 10.6 2,120 บาท
Worst Case (SL 5 จุด) 837.7 - 832.7 -5.0 -1,000 บาท
________________________________________
3️⃣ วิเคราะห์ % โอกาสชนะ (Win Probability)
🔴 Short Trade
• ราคาทำ Lower High และมีแนวต้านที่ 848.3 - 858.9
• ถ้าทะลุ 858.9 มีโอกาสเป็นขาขึ้น
• % ชนะ = 58%
🟢 Long Trade
• แนวรับที่ 837.7 - 827.4 ค่อนข้างแข็งแกร่ง
• ถ้าราคาขึ้นทะลุ 848.3 จะเข้าสู่ขาขึ้น
• % ชนะ = 67%
________________________________________
4️⃣ แผนการเทรด (Trading Plan)
✅ แผนที่ดีที่สุด (Optimal Plan)
1. เทรดฝั่ง Long เป็นหลัก (Win Rate 67%)
o Entry: 837.7 - 827.4
o Stop Loss: 832.7 (-5 จุด) หรือ 827.7 (-10 จุด)
o Take Profit: 848.3 หรือ 856.9
o Best Case: 5,900 บาท
o Worst Case: -1,000 บาท
2. ใช้ Short Trade เป็น Backup (Win Rate 58%)
o Entry: 848.3 - 858.9
o Stop Loss: 853.3 (-5 จุด) หรือ 858.3 (-10 จุด)
o Take Profit: 840.3 หรือ 835.2
o Best Case: 4,740 บาท
o Worst Case: -1,000 บาท
________________________________________
5️⃣ ข้อสรุป
✅ ปรับ Stop Loss 5-10 จุด เพื่อลดความเสี่ยง
✅ วิเคราะห์โอกาสชนะ Long (67%) และ Short (58%)
✅ มี Best Case, Most Likely, Worst Case ที่ชัดเจน
✅ แผนนี้ ใช้ได้จริง และลดความเสี่ยงจาก Stop Loss ที่แคบเกินไป
💡 ข้อสรุป:
"Long Trade ในโซนตามแผนมีโอกาสชนะสูงสุด (67%) และให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด!" 🚀
วิเคราะห์หุ้น OR ตั้งแต่ IPO จนถึงปัจจุบัน และคาดการณ์กำไร Q4/2504/02/25 วิเคราะห์หุ้น OR (PTT Oil and Retail Business PCL) ตั้งแต่ IPO จนถึงปัจจุบัน และคาดการณ์กำไร Q4/2567
________________________________________
1. หุ้น OR ตั้งแต่ IPO จนถึงปัจจุบัน
หุ้น OR เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 โดยเปิดตัวด้วยราคา IPO ที่ 18 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งใน IPO ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นบริษัทในเครือของ PTT ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวกับสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และแบรนด์เครื่องดื่ม Café Amazon ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย
เส้นทางราคาหุ้น OR
🔹 IPO ที่ 18 บาท → เปิดตลาดวันแรกปรับขึ้นไป 26-27 บาท
🔹 ราคาสูงสุดแตะ 36 บาทในปี 2564 → แรงเก็งกำไรจากธุรกิจ Non-Oil เช่น Café Amazon
🔹 ปี 2565-2566 หุ้นปรับฐานลง → แรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ผันผวนและการแข่งขันที่สูงขึ้น
🔹 ปี 2567 ราคาหุ้นปรับลดต่ำกว่า 15 บาท → นักลงทุนบางส่วนกังวลเกี่ยวกับศักยภาพการเติบโต
📌 ราคาล่าสุด (4 กุมภาพันธ์ 2568): 11.30 บาท
• ต่ำกว่าราคา IPO กว่า 35%
• ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง
________________________________________
2. ผลประกอบการและแนวโน้ม Q4/2567
🔍 คาดการณ์รายได้ Q4/2567
📊 รายได้รวม: THB 195.507B (+9.61% YoY)
📊 คาดการณ์รายได้ทั้งปี: THB 735.145B (-0.50% YoY)
✅ รายได้เติบโต 9.61% ในไตรมาส 4 ถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก
________________________________________
3. ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกำไร Q4/2567
✅ ปัจจัยสนับสนุนกำไร
1. High Season ของธุรกิจ Non-Oil
o เทศกาลปีใหม่ช่วยหนุนยอดขาย Café Amazon, Texas Chicken และร้านสะดวกซื้อ
o การขยายสาขาในไทยและต่างประเทศเพิ่มโอกาสเติบโต
2. ราคาน้ำมันอาจช่วยเพิ่มมาร์จิ้น
o หากราคาน้ำมันปรับลดลง จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร
3. การขยายสถานีบริการน้ำมันและค้าปลีก
o OR ยังคงขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ
________________________________________
❌ ปัจจัยเสี่ยงที่อาจกดดันกำไร
1. ต้นทุนบริหารและเงินเฟ้อสูงขึ้น
o อัตราเงินเฟ้ออาจกระทบต้นทุนดำเนินงาน
o กำไรสุทธิอาจไม่โตมากเท่ากับรายได้
2. การแข่งขันที่สูงขึ้น
o ร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อมีการแข่งขันจาก 7-Eleven, Starbucks และอินทนิล
3. เศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อของผู้บริโภค
o หากกำลังซื้ออ่อนแอ อาจส่งผลต่อธุรกิจ Non-Oil
________________________________________
4. แนวโน้มราคาหุ้นและกลยุทธ์การลงทุน
📌 หากกำไรออกมาดีกว่าคาด → หุ้นอาจปรับขึ้นไป 12-14 บาท
📌 หากกำไรต่ำกว่าคาด → อาจเห็นการปรับฐานลงไป 11 บาท
🎯 แนวรับ-แนวต้านสำคัญ
🔻 แนวรับ: 10.70-11.50 บาท
🔺 แนวต้าน: 12 - 14 บาท
💡 กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน
📍 รอผลประกอบการ Q4/2567 ก่อนตัดสินใจลงทุน
📍 หากราคาหุ้นต่ำกว่า 11.50 บาท → อาจเป็นโอกาสซื้อ
📍 หากหุ้นสามารถทะลุแนวต้าน 14 บาทได้ → อาจกลับเข้าสู่ขาขึ้น
________________________________________
🔎 สรุปแนวโน้ม OR ปี 2568
• กำไร Q4/2567 อาจเติบโต 8-10% YoY ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
• ธุรกิจ Non-Oil เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ OR เติบโตในระยะยาว
• ราคาหุ้นยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ต้องจับตาผลประกอบการ Q4 อย่างใกล้ชิด
ความผันผวนของปอนด์บานพับปรับลดอัตราดอกเบี้ยและภาษีศุลกากรความผันผวนของปอนด์บานพับปรับลดอัตราดอกเบี้ยและภาษีศุลกากร
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้สมดุลจำเป็นที่จะต้
ตัด 25 บิตเป็นราคาส่วนใหญ่ใน,แต่โกลด์แมนแซคส์คาดว่าจะค่อยๆอ่อนแอป.ปอนด์มากกว่าการลด
นอกจากนี้,สหราชอาณาจักร,เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ,เผชิญประกาศภาษีที่มีศักยภาพจากการบริหารทรัมป์.
ปอนด์/เหรียญสหรัฐยังคงอยู่เหนือ 1.2385 กับอาร์เอสไอ 2 ชั่วโมงข้างต้น 60 แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่
สหราชอาณาจักรนายกรัฐมนตรีคีร์สตาร์เมอร์จะพยายามห้ามปรามทรัมป์จากการจัดเก็บภาษีโดยเน้นข้อมูลการค้าสหรัฐแสดงส่วนเกินการค้ากับสหราชอาณาจักรใน 2023.
NLแม้กราฟราคาจะทำฐานต่ำลงเรื่อยๆ แต่หากดูภาพใหญ่จะเห็นว่ามีการยกตัวของ Stochastic RSI และ MACD เป็นสัญญาณ Bullish Divergence จะเกิดเมื่อตลาดหุ้น หรือหลักทรัพย์นั้นๆอยู่ในขาลง และ มีโอกาสเข้าสู่ทิศทางกลับตัว กล่าวคือ ปัจจุบันทราบว่าบริษัทได้มีการรับงานใหม่หลายโครงการแต่ยังไม่ได้ประกาศเนื่องจากต้องการประกาศรวมกันหลายๆงานซึ่งเร็วๆนี้คงมีการประกาศแจ้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจเป็นตัวทริกเกอร์ (Trigger) ให้ราคาดีดกลับตัวได้
TPS หุ้นกลุ่ม data center ฟอร์มสะสมTPS หุ้นกลุ่ม data center ฟอร์มสะสม
สำหรับหุ้นตัวนี้เรียกได้ว่าสายVA ต้องเริ่มเอากลับมาเฝ้าแล้ว เพราะเราจะเห็นว่า VAโซนล่างเริ่มสะสมได้ที่ และกราฟเบรค ema200ขึ้นมาพักตัวสวยๆแล้ว
สำหรับมุมมองผมให้ความสนใจกับหุ้นตัวนี้ ตีมนี้ หลังจากนี้เรารอเห็นอาการสะสมเพิ่มอีกหน่อย รอข่าวอีกนิด น่าจะได้มันส์กันครับ
ผู้สนใจลองหาข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมดูนะครับ
***หมายเหตุ เป็นเพียงการแชร์ความรู้เชิงกราฟแพทเทิร์นเท่านั้นไม่ได้เจตนาชี้นำในการลงทุนแต่อย่างใด
TLI หุ้นฟอร์ม Re-AccumulationTLI หุ้นฟอร์ม Re-Accumulation
ใครหาหุ้นแข็งกว่าตลาดในช่วงนี้ ถ้าไม่มี TLI ต้องบอกว่าพลาด เพราะหลังจากที่ทำราคาหลุดไปถึง 6.60บาท แล้วสามารถดึงกลับมาที่ 8.40บาทได้ TLI ต้องอยู่ในลิสเฝ้าระวังทางเทคนิคคอลแล้ว
และเมื่อราคาเบรค 9.00 ตรงema200ได้เป็นจุดคอนเฟิมการเข้าซื้อของหุ้นตัวนี้อีกครั้ง ซึ่งใตอนนี้อาการเหมือนออกข้างสะสมของเพื่อไปต่อนะครับ
ผู้สนใจลองหาข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมดูนะครับ
***หมายเหตุ เป็นเพียงการแชร์ความรู้เชิงกราฟแพทเทิร์นเท่านั้นไม่ได้เจตนาชี้นำในการลงทุนแต่อย่างใด
TBN หุ้นโซนล่าง VAสะสม ยกโลวสวย TBN หุ้นโซนล่าง VAสะสม ยกโลวสวย
หุ้นให้บริการเทคโนโลยีซอฟแวร์ เก็บล่างสะสมของเป็นเวลา 5-6เดือน กราฟฟอร์มยกโลว ยืนเหนือema89 ลุ้นกลับตัว เป้าไกล 14บาท
ผู้สนใจลองหาข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมดูนะครับ
***หมายเหตุ เป็นเพียงการแชร์ความรู้เชิงกราฟแพทเทิร์นเท่านั้นไม่ได้เจตนาชี้นำในการลงทุนแต่อย่างใด
Gold Market Outlook (4 กุมภาพันธ์ 2025)🌟 Gold Market Outlook (4 กุมภาพันธ์ 2025)
📊 ทองคำทะลุ $2,830 จากความตึงเครียดทางการค้าและแรงซื้อสถาบัน
🔍 วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ตลาดทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเช้านี้ โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ตึงเครียดมากขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ในอัตรา 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน ส่งผลให้เกิดการตอบโต้จากประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีนที่ประกาศจะดำเนินการร้องเรียนต่อ WTO
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ได้แก่:
- ภาวะขาดแคลนอุปทานในตลาดลอนดอน เนื่องจากการขนส่งทองคำจำนวนมากไปยังนิวยอร์ก
- การเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการถือครองดอลลาร์สหรัฐ
- แนวโน้มการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า
⚡ ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
1. การประกาศดัชนี ISM Services PMI (6 ก.พ.)
- คาดการณ์ที่ระดับ 52.3
- มีความสำคัญต่อการคาดการณ์นโยบายการเงินของ Fed
2. ตัวเลข NFP และอัตราการว่างงาน (7 ก.พ.)
- คาดการณ์การจ้างงานที่ 180,000 ตำแหน่ง
- อัตราการว่างงานคาดที่ 3.8%
3. การประชุม BOE (8 ก.พ.)
- คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25%
- ติดตามท่าทีต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
📈 การวิเคราะห์ทางเทคนิค
กรอบ H1:
- ราคาเคลื่อนตัวเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทุกเส้น สะท้อนแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
- RSI ที่ระดับ 82.3 แสดงภาวะ Overbought แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัว
- MACD Histogram เป็นบวกแต่เริ่มแผ่วลง บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของโมเมนตัม
กรอบ M15:
- แท่งเทียนล่าสุดแสดงการทดสอบแนวต้าน $2,813
- Stochastic อยู่ในเขต Overbought แต่ยังไม่เกิด Bearish Crossover
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงราคาปรับตัวขึ้น สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น
💫 แนวรับ-แนวต้าน (07:25 น.)
แนวต้าน:
- แนวต้าน 3: $2,830 (จุดสูงสุดประวัติการณ์)
- แนวต้าน 2: $2,822 (แนวต้านระยะสั้น)
- แนวต้าน 1: $2,813 (แนวต้านปัจจุบัน)
แนวรับ:
- แนวรับ 1: $2,806 (แนวรับระยะสั้น)
- แนวรับ 2: $2,800 (แนวรับจิตวิทยา)
- แนวรับ 3: $2,791 (แนวรับ Fibonacci)
🎯 กลยุทธ์การเทรด
1. การเทรดระยะสั้น:
- เข้าซื้อที่แนวรับ $2,800
- Stop Loss: $2,791
- Take Profit: $2,813 และ $2,822
2. การเทรดระยะกลาง:
- รอจังหวะย่อตัวเข้าซื้อที่ $2,791
- Stop Loss: $2,785
- Take Profit: $2,830
วิเคราะห์โดย : Beam